ในตำราจีนสมัยโบราณ มีคำกล่าวไว้ว่า
จากความเชื่อในสมัยโบราณที่ผ่านการพิสูจน์ทั้งทางวิทยาศาสตร์ และทางการแพทย์จนนำมาสู่ความจริงว่า เห็ดหลินจือ มีส่วนช่วยทำให้สุขภาพแข็งแรง เมื่อร่างกายคนเราอยู่ในสภาวะที่แข็งแรงที่สุด ไม่เจ็บไข้ได้ป่วย ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บจึงเป็นที่มาของคำว่า ‘กลายเป็นเซียน’ จึงทำให้ผลิตภัณฑ์จากเห็ดหลินจือเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความสนใจในการบริโภคเพื่อบำรุงสุขภาพ เพราะนอกจากจะพบว่าการบริโภคเห็ดหลินจือมีประสิทธิภาพในการบำบัดรักษาโรคได้แล้ว ยิ่งไปกว่านั้นเห็ดหลินจือยังมีประโยชน์ในการดูแลสุขภาพด้วยการปรับสมดุลของคนเราทำให้สมบูรณ์แข็งแรงอยู่เสมอ
ผู้ที่บริโภคเห็ดหลินจืออย่างต่อเนื่องเท่ากับเป็นการเสริมสร้างสุขภาพให้แข็งแรงอยู่คู่กับเราไปนานเท่านาน เนื่องจากสารออกฤทธิ์ในเห็ดหลินจือ ช่วยเสริมสร้าง และกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันทำให้สามารถทำลายสิ่งแปลกปลอม และเชื้อโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะเดียวกันก็ช่วยผ่อนคลาย และปรับสมดุลระบบภูมิคุ้มกันได้อีกด้วย เพราะเราไม่มีโอกาสรู้เลยว่าจะต้องเผชิญกับโรคร้ายวันใดในยุคที่ดำเนินชีวิตท่ามกลางมลภาวะที่เป็นพิษขั้นวิกฤตอย่างทุกวันนี้ การบริโภคเห็ดหลินจืออย่างสม่ำเสมอเพื่อเตรียมร่างกายให้แข็งแรง พร้อมต่อสู้กับโรคภัยไข้เจ็บย่อมดีกว่าการใช้เมื่อถึงวันที่เซลล์ในร่างกายถูกทำลายจนอ่อนแอ
เห็ดหลินจือนับเป็นสมุนไพรที่เป็นอาหารเพื่อสุขภาพที่สามารถบริโภคได้ทุกวัน ดังนั้น เราจึงต้องให้ความสำคัญกับการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เห็ดหลินจือที่มีคุณภาพเพื่อให้มั่นใจว่าการใช้เห็ดหลินจือบำรุงสุขภาพอย่างต่อเนื่องจะได้รับคุณประโยชน์ทั้งด้านประสิทธิภาพ และความปลอดภัยโดยไม่มีสารพิษสะสมหรือตกค้างในร่างกายในระยะยาว
เนื่องจากภายในเห็ดหลินจือมีสารออกฤทธิ์ที่สำคัญหลายชนิดที่สามารถฟื้นฟูสภาพร่างกายให้กลับมาแข็งแรงได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สารไตรเทอร์พีนอยด์ (Triterpenoids) และสารโพลีแซคคาไรด์ (Polysaccharides) ฉะนั้น ผลิตภัณฑ์เห็ดหลินจือที่ดีต้องมีสารออกฤทธิ์ทั้งสองชนิดนี้ประกอบกัน อย่างไรก็ตาม ผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายในท้องตลาดมักจะระบุเพียงสารโพลีแซคคาไรด์เป็นส่วนประกอบเพียงอย่างเดียว คนส่วนใหญ่จึงมักเข้าใจ และมักพิจารณาเลือกผลิตภัณฑ์เห็ดหลินจือที่มีปริมาณสารโพลีแซคคาไรด์เพียงอย่างเดียว ซึ่งเป็นความเข้าใจผิดที่ได้รับการปลูกฝังมาช้านานเพราะสารโพลีแซคคาไรด์โมเลกุลใหญ่ ที่มีขนาดโมเลกุลตั้งแต่ 10,000 ขึ้นไปเท่านั้น ที่มีประสิทธิภาพในการเสริมสร้าง และกระตุ้นภูมิคุ้มกันซึ่งจะทำหน้าที่คอยยับยั้ง และป้องกันเชื้อโรคที่จะเข้าสู่ร่างกาย
สำหรับสารไตรเทอร์พีนอยด์ซึ่งเป็นสารสำคัญในการกำหนดอัตลักษณ์ของเห็ดหลินจือ ว่ามิใช่เห็ดชนิดอื่น มีส่วนช่วยในการผ่อนคลายระบบภูมิคุ้มกัน กล่าวได้ว่า สารออกฤทธิ์ทั้งสองชนิดที่พบในเห็ดหลินจือ มีส่วนช่วยในการปรับสมดุลระบบภูมิคุ้มกันไม่ให้มีมากเกินไปหรือน้อยเกินไป และทำให้ระบบภูมิคุ้มกัน สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ สารออกฤทธิ์ในเห็ดหลินจือยังช่วยฟื้นฟูร่างกายจนถึงระดับเซลล์ ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ผลิตภัณฑ์เห็ดหลินจือที่ดีต้องมีส่วนประกอบของสารออกฤทธิ์ทั้งสองรวมกันเพื่อสร้างสมดุลภูมิคุ้มกัน โดยช่วยสร้างภูมิต้านทานในร่างกายมนุษย์ให้แข็งแรง สามารถยับยั้ง และทำลายเชื้อโรคร้ายที่จะเข้ามาทำลายเซลล์ภายในร่างกายของเรา ตลอดจนฟื้นฟูอวัยวะต่างๆ ภายในร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ
เราจึงควรเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เห็ดหลินจือโดยพิจารณาจากการที่มี สารออกฤทธิ์ทั้งสองชนิด รวมทั้งผลิตภัณฑ์ต้องผ่านกระบวนการผลิตที่มีคุณภาพ และประสิทธิภาพ นับตั้งแต่การควบคุมคุณภาพการเพาะปลูกเห็ดหลินจือซึ่งเป็นวัตถุดิบ และการเก็บเกี่ยวในช่วงเวลาที่เหมาะสม เพื่อให้ได้เห็ดหลินจือที่มีคุณภาพ และประสิทธิภาพสูงสุด ตลอดจนมีกระบวนการผลิตอันทันสมัยที่สามารถสกัดสารออกฤทธิ์ที่สำคัญทั้งสองชนิดได้อย่างมีประสิทธิภาพ และที่สำคัญคือ คงปริมาณสารออกฤทธิ์ในเห็ดหลินจือไว้อย่างครบถ้วน เพราะสารออกฤทธิ์ทั้งสองชนิดมีคุณสมบัติแตกต่างกัน จึงจำเป็นต้องใช้กรรมวิธีในการสกัดที่แตกต่างกัน
นอกจากนี้ กระบวนการผลิตผลิตภัณฑ์เห็ดหลินจือจะต้องได้รับการรับรองมาตรฐาน GMP (Good Manufacturing Practice) และที่สำคัญผลิตภัณฑ์ต้องได้รับการรับรองมาตรฐานจากสถาบันที่มีชื่อเสียงระดับสากลเพื่อยืนยันถึงประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์เห็ดหลินจือ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์เห็ดหลินจือที่เราเลือกรับประทานจะมีคุณภาพส่งผลให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์เห็ดหลินจือมากมายหลายรูปแบบ และหลายราคา ให้เลือกซื้อในท้องตลาด การเลือกซื้อเห็ดหลินจือโดยยึดราคาที่ถูกใจเป็นสำคัญ โดยไม่ได้พิจารณาถึงที่มา และสารประกอบสำคัญที่มีประโยชน์ว่าครบถ้วนหรือไม่ อาจกลายเป็นการลงทุนที่เปล่าประโยชน์ในที่สุด เพราะอาจทำให้ได้รับสารออกฤทธิ์ที่มีประสิทธิภาพไม่ครบถ้วน และเพียงพอ หรือรับประทานแล้วไม่เห็นผลต่อร่างกายซึ่งเป็นการเสียเงินเปล่า และอาจส่งผลเสียต่อร่างกายด้วย
นอกจากนี้ คนเรามีสภาพร่างกาย และปัญหาสุขภาพแตกต่างกัน ร่างกายของแต่ละคนย่อมต้องการบริโภคเห็ดหลินจือในปริมาณที่แตกต่างกันไปด้วย ผู้ผลิตที่ตระหนักถึงผู้บริโภคอย่างแท้จริงย่อมเล็งเห็นถึงความสำคัญของคุณภาพ และประสิทธิภาพที่หลากหลายของผลิตภัณฑ์ จึงควรมีการลงทุนทางด้านการวิจัย และพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ และประสิทธิภาพสูงสุดในการดูแลสุขภาพร่างกาย เช่น การคิดค้น วิจัย และพัฒนาสายพันธุ์เห็ดหลินจือ การสร้างโรงเรือนที่สามารถควบคุมสภาวะการเพาะปลูกเห็ดหลินจือให้เหมาะสม การสกัดสารออกฤทธิ์จากดอกเห็ดหลินจือคุณภาพดี ซึ่งมีสารออกฤทธิ์ครบถ้วน รวมทั้งกระบวนการผลิตด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อคงคุณภาพและปริมาณสารออกฤทธิ์ไว้ไม่ให้เสื่อมสลายระหว่างกระบวนการผลิต จึงจะทำให้การบริโภคเห็ดหลินจือมีประสิทธิภาพสูงสุด
ในทางตรงกันข้ามหากเลือกรับประทานเห็ดหลินจือตากแห้งบดเป็นผงที่บรรจุในแคปซูลซึ่งวางขายเกลื่อนตลาด ถึงแม้ว่าอาจจะมีราคาถูกกว่า แต่มักจะขาดสารออกฤทธิ์ที่เป็นคุณสมบัติที่แท้จริงของเห็ดหลินจือไป ซึ่งเท่ากับว่าเป็นการรับประทานเส้นใยจากพืชทั่วไปเท่านั้นเอง หรืออาจได้รับสารตกค้างที่มากับเห็ดตากแห้ง ดังนั้นจึงควรพิจารณาเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เห็ดหลินจือที่ผ่านกระบวนการสกัดสารออกฤทธิ์ด้วยกรรมวิธีที่ทันสมัย สามารถสกัดสารออกฤทธิ์ได้อย่างครบถ้วน และไม่เสื่อมสลายระหว่างกระบวนการผลิต อีกทั้งยังคงสภาพของสารออกฤทธิ์ตลอดอายุของผลิตภัณฑ์ เพื่อให้บริโภคแล้วเกิดประโยชน์ต่อร่างกายอย่างแท้จริง รวมทั้งต้องมีการจดทะเบียนอย่างถูกต้องจากหน่วยงานที่ทำหน้าที่ดูแลผลิตภัณฑ์ ซึ่งเป็นการยืนยันคุณภาพของผลิตภัณฑ์อย่างชัดเจน
มีคำกล่าวอ้างว่า
คำกล่าวนี้เห็นทีจะมีแต่ในนิยายจีนโบราณเสียแล้ว เพราะได้มีการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์แล้วว่า เห็ดหลินจือที่ดีมีคุณภาพนั้น จะต้องเก็บเกี่ยวในเวลาที่เหมาะสมและผ่านกระบวนการสกัดด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ จึงจะได้เห็ดหลินจือที่มีประสิทธิภาพมาใช้ในการดูแลร่างกาย เพราะจากการค้นคว้าวิจัย พบว่า ระยะเวลาในการเพาะเห็ดหลินจือจะมีผลต่อปริมาณสารออกฤทธิ์ และเห็ดหลินจือแต่ละสายพันธุ์มีช่วงเวลาในการเก็บเกี่ยวแตกต่างกัน โดยการเก็บเกี่ยวควรทำในช่วงที่เห็ดหลินจือมีปริมาณสารออกฤทธิ์มากที่สุด ดังนั้น เห็ดหลินจือเก่าแก่ที่ค้นพบนั้น ได้แปลงสภาพเป็นต้นไม้ที่หยุดการเจริญเติบโตไปแล้ว จึงไม่หลงเหลือสารออกฤทธิ์ใดๆ อีกต่อไป
มีคำกล่าวอ้างว่า
เมื่อพิจารณาอย่างถ่องแท้จะเห็นว่าเห็ดหลินจือที่พบในป่าที่อาจเกิดขึ้นบนขอนไม้และดูดซึมสารอาหารจากขอนไม้ ซึ่งอาจไม่ได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนสมบูรณ์แต่การเพาะปลูกเห็ดหลินจือในระบบฟาร์มปิด จะมีการวิจัย และพัฒนาอาหารที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของเห็ดหลินจือ ยิ่งไปกว่านั้นยังมีการควบคุมสภาวะที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของเห็ดหลินจือด้วยระบบคอมพิวเตอร์ เช่น แสงแดด ความชื้น และอุณหภูมิที่เหมาะสม อีกทั้งมีการควบคุมปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ไม่ให้มีมากจนเกินไป ดังนั้น การเพาะปลูกเห็ดหลินจือในระบบฟาร์มปิดจึงทำให้เห็ดหลินจือเจริญเติบโตภายใต้สภาวะที่เหมาะสมทำให้มีปริมาณสารออกฤทธิ์ที่สูงกว่าเห็ดหลินจือที่เกิดเองตามธรรมชาติที่เจริญเติบโตภายใต้สภาวะธรรมชาติที่ไม่สามารถควบคุมได้
นอกจากนี้ แม้เห็ดหลินจือมีอายุเหมาะสม แต่ถ้าขั้นตอนในการสกัดไม่ได้มาตรฐาน ก็อาจทำให้ปริมาณสารออกฤทธิ์นั้นลดลง และส่งผลต่อคุณภาพของผลิตภัณฑ์เห็ดหลินจือได้เช่นกัน
ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์เห็ดหลินจือมีทีมงานวิจัยมืออาชีพในการวิจัย และพัฒนาสายพันธุ์เห็ดหลินจือ
การเพาะปลูกเห็ดหลินจือต้องเพาะปลูกภายใต้การควบคุมสภาวะที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโต เพื่อให้ได้ดอกเห็ดหลินจือที่มีปริมาณสารออกฤทธิ์สูงมาเป็นวัตถุดิบในการผลิตผลิตภัณฑ์
โรงงานผลิตผลิตภัณฑ์เห็ดหลินจือที่มีเทคโนโลยีในการผลิตอันทันสมัย และได้รับการรับรองมาตรฐานสากลเพื่อเป็นหลักประกันด้านคุณภาพ และสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้บริโภค
ผลิตภัณฑ์เห็ดหลินจือที่ได้รับการรับรองเรื่องประสิทธิภาพจากสถาบันที่มีชื่อเสียงก็จะทำให้มั่นใจได้ว่า เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างแท้จริง
ผลิตภัณฑ์เห็ดหลินจือต้องมีฉลากความปลอดภัย ไม่ใช่เป็นเพียงแค่การคุ้มครองผู้บริโภคเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคด้วยว่าผลิตภัณฑ์ไม่มีสารตกค้างที่เป็นอันตรายและไม่มีผลข้างเคียงต่อร่างกาย เพราะการรับประทานเห็ดหลินจือในการดูแลสุขภาพควรต้องรับประทานอย่างต่อเนื่อง